ก่อนซื้อต้องรู้!! หลักการเครื่องกรองน้ำแต่ละแบบ ต่างกันยังไง

เครื่องกรองน้ำเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้เรามั่นใจว่าน้ำที่ดื่มสะอาดและปลอดภัยต่อร่างกาย แล้วรู้หรือไม่ว่าเครื่องกรองน้ำมีหลักการทำงานที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของการกรอง หากคุณเลือกผิดอาจได้เครื่องกรองน้ำที่กรองน้ำได้ไม่สะอาด 100% และเป็นอันตรายต่อร่างกาย ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการทำงานเครื่องกรองน้ำแต่ละประเภทกันค่ะ

หลักการเครื่องกรองน้ำ มีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. เครื่องกรองน้ำแบบ Activated Carbon (ถ่านกัมมันต์)

เป็นระบบกรองที่ใช้ ถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก ทำหน้าที่ดูดซับสารเคมี คลอรีน ตะกอน สารอินทรีย์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ปนเปื้อนในน้ำ ทำให้ได้น้ำที่สะอาดขึ้นและรสชาติดีขึ้น นิยมใช้ในระบบกรองน้ำดื่มและเครื่องกรองน้ำทั่วไป เนื่องจากติดตั้งง่าย ราคาไม่สูง และไม่ต้องใช้ไฟฟ้า แต่ถึงอย่างไรก็ตามเครื่องกรองประเภทนี้ไม่สามารถกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส โลหะหนัก หรือสารละลายบางชนิดได้ ดังนั้นจึงมักใช้ร่วมกับระบบกรองอื่น เช่น RO, UV หรือ UF เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองน้ำให้ปลอดภัยมากขึ้น

2. เครื่องกรองน้ำแบบ UV (Ultraviolet)

เป็นระบบกรองที่ใช้แสงอัลตราไวโอเลต (UV) ในการฆ่าเชื้อโรค โดยหลอด UV ภายในเครื่องจะปล่อยรังสีความเข้มสูงในช่วงความยาวคลื่นประมาณ 254 นาโนเมตร ซึ่งจะเข้าไปทำลาย DNA ของแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และจุลินทรีย์อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้น้ำปลอดภัยจากเชื้อโรคโดยไม่ต้องใช้สารเคมีและไม่ก่อให้เกิดสารตกค้าง นอกจากนี้ยังช่วยรักษาคุณภาพของน้ำให้คงเดิมโดยไม่ปรับเปลี่ยนแปลงรสชาติหรือกลิ่น แต่อย่างไรก็ดีเครื่องกรองน้ำระบบนี้ไม่สามารถกรองสารเคมี โลหะหนัก หรือสิ่งสกปรกที่เป็นของแข็ง เช่น ตะกอน ฝุ่น หรือคลอรีน จึงใช้ร่วมกับระบบกรองอื่น เช่น Activated Carbon หรือ RO เพื่อให้ได้น้ำที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3. เครื่องกรองน้ำแบบ UF (Ultrafiltration)

เป็นระบบกรองที่ใช้เยื่อเมมเบรนที่มีรูขนาดเล็กประมาณ 0.01 ไมครอน ทำหน้าที่กรองเชื้อโรค แบคทีเรีย สาหร่าย ตะกอน และสารแขวนลอย ที่ปะปนอยู่ในน้ำ ทำให้ได้น้ำที่สะอาดขึ้นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีหรือไฟฟ้า ระบบ UF สามารถรักษาแร่ธาตุที่มีประโยชน์ในน้ำไว้ได้ ทำให้น้ำที่ผ่านการกรองยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการ ระบบ UF นิยมใช้ในบ้านเรือนและพื้นที่ที่มีคุณภาพน้ำดิบดีอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเครื่องกรองแบบ UF ไม่สามารถกรองสารเคมีที่ละลายน้ำ โลหะหนัก หรือไวรัสขนาดเล็กมากๆ จึงไม่เหมาะกับแหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมีสูง และมักใช้ร่วมกับเครื่องกรองประเภทอื่น เช่น Activated Carbon หรือ RO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรอง

4. เครื่องกรองน้ำแบบเซรามิก (Ceramic Filter)

เป็นระบบกรองน้ำที่ใช้ไส้กรองเซรามิกที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุนขนาดเล็กระดับ 0.1-0.5 ไมครอน ในการกรองสิ่งสกปรก ตะกอน แบคทีเรีย และเชื้อโรคบางชนิด ออกจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องกรองประเภทนี้มีความทนทานสูง อายุการใช้งานยาวนาน และมีต้นทุนต่ำ จึงเป็นที่นิยมสำหรับการกรองน้ำในครัวเรือน นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้ไฟฟ้าและสามารถนำไส้กรองมาทำความสะอาดแล้วใช้ซ้ำได้ แต่อย่างไรก็ดีไส้กรองเซรามิกต้องได้รับการดูแลและล้างทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อป้องกันการอุดตันของสิ่งสกปรก และข้อเสียอีกประการหนึ่งคือไม่สามารถกำจัดสารเคมี โลหะหนัก หรือไวรัสที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากต้องการกรองน้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมีสูง ควรใช้ร่วมกับระบบกรองอื่น เช่น Activated Carbon หรือ RO

5. เครื่องกรองน้ำแบบ RO (Reverse Osmosis)

เป็นระบบกรองที่ใช้หลักการออสโมซิสย้อนกลับ (Reverse Osmosis) โดยอาศัยแรงดันน้ำดันผ่านเยื่อเมมเบรนที่มีรูขนาดเล็กระดับ 0.0001 ไมครอน ที่สามารถกรองสิ่งปนเปื้อนในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นสารแขวนลอย เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารเคมี และเกลือแร่ที่ละลายในน้ำ ซึ่งจะช่วยให้น้ำที่ได้มีความบริสุทธิ์สูง ระบบกรองน้ำ RO นิยมใช้ในบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม และสถานพยาบาล แม้ว่าระบบนี้จะสามารถกรองน้ำได้สะอาดที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่การกรองแร่ธาตุที่มีประโยชน์ออกไปจากน้ำ ต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน และเกิดน้ำทิ้งจากกระบวนการกรองประมาณ 50-70% ของน้ำที่ใช้ ดังนั้นควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมและพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

หลักการเครื่องกรองน้ำ แต่ละแบบเหมาะกับใคร

ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำดิบที่คุณใช้กรองค่ะ หากเป็นน้ำประปาทั่วไป (ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนสูง) ก็สามารถใช้ UF, Activated Carbon หรือ RO ก็เพียงพอต่อการกรองเชื้อโรคและกลิ่นคลอรีนแล้วค่ะ แต่หากมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพน้ำมาก่อน เช่น น้ำกร่อย น้ำบาดาล น้ำทะเล แนะนำเป็นระบบ RO ที่ได้ทั้งความสะอาดและกำจัดเชื้อโรค สารเคมี รวมถึงโลหะหนักได้ครบถ้วนที่สุดค่ะ

สุดท้ายนี้หากคุณกำลังตัดสินใจจะซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลของแต่ละแบรนด์ด้วยนะคะว่าแบรนด์ไหนมีบริการซ่อมฟรีหลังการขายบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้ดื่มน้ำจากเครื่องกรองคุณภาพสูงไปนานๆ ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ ที่อาจต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลา แถมยังเสียสุขภาพจิตอีกด้วยค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: เครื่องกรองน้ำราคาสูงดีจริงมั้ย? ราคาแบบไหนถึงเหมาะสำหรับคุณ

บทความที่น่าสนใจ

• เครื่องกรองน้ำ UV คืออะไร มีข้อดีข้อเสีย คุ้มกว่า RO หรือไหม
• เครื่องกรองน้ำบาดาล ใช้ในบ้าน คุ้มไหม ระบบ RO ดีกว่ายังไง
• ติดตั้งเครื่องกรองน้ำเอง ดีไหม ติดตั้งอย่างไรไม่ให้มีปัญหาตามมา

เครื่องกรองน้ำ RO ทำไมต้อง Live Healthy

สำหรับใครที่ต้องการดื่มน้ำสะอาดและกำลังมองหาเครื่องกรองน้ำดื่มที่มีระบบกรองน้ำดื่มคุณภาพดี การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้มากมาย และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ทางเรา LIVE HEALTHY มีเครื่องกรองน้ำด่างจัดจำหน่ายหลากดีไซน์หลายประเภท ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบตั้งพื้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เราเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ชั้นนำจากบริษัท KYK CO.,LTD ของเกาหลีมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี ตัวเครื่องสามารถผลิตน้ำที่ให้ค่า pH ได้ถึง 9 ระดับ แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป นอกจากการใช้งานที่คุ้มค่าแล้ว ทางเรายังมีบริการหลังการขายแบบ On Site Service โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลเครื่องกรองน้ำของท่านถึงที่บ้าน หากใครกังวลใจเรื่องไส้กรองตกรุ่น ทางเรามีไส้กรองพร้อมเปลี่ยนทันที สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกลิงก์นี้ได้เลยค่ะ